‘อัลติจูด’ ร่วมทุน ‘Creed Group’ และ ‘Scientex’ พันธมิตรด้านการลงทุนอสังหาฯ ระดับโลกจากญี่ปุ่นและมาเลเซีย เปิดตัวโครงการ ‘อัลติจูด คราฟ ไวบ์ บางนา’ พรีเมี่ยมทาวน์โฮมสไตล์มินิมอล เริ่มต้น 2.99-4.59 ล้านบาท*
บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ “อัลติจูด” (ALTITUDE) “เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจ ผนึกพาร์ทเนอร์ชั้นนำด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่นและมาเลเซีย Scientexและ ครีท กรุ๊ป (Creed Group) ร่วมพัฒนาโครงการ อัลติจูด คราฟ ไวบ์ บางนา (Altitude Kraf Vibe Bangna) พรีเมี่ยมทาวน์โฮมสไตล์มินิมอล บนทำเลศักยภาพ 'บางนา' เจาะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
คุณธัญญรัตน์ รีส์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและจัดหาแหล่งทุน บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “อัลติจูด” (ALTITUDE) ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 10 ปัจจุบัน มีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและขายรวม 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท ด้วยยุทธศาสตร์หลักที่มุ่งให้ความสำคัญกับการลงทุน พัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยของผู้คน ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับ ครีท กรุ๊ป (Creed Group) ทุนอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น พาร์ทเนอร์คนสำคัญที่เคยร่วมทุนในโครงการ อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ ในรูปแบบการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ ครั้งนี้ ครีท กรุ๊ป ดึง Scientexผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นของมาเลเซียมาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ อัลติจูด คราฟ ไวบ์ บางนา โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 1,434 ล้านบาท
โดย ครีท กรุ๊ป (Creed Group) เป็นบริษัทด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์การลงทุนและพัฒนาผลงานให้เติบโตมาตั้งแต่ปี 2012 ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา อินโดนีเซีย สปป.ลาว และบังคลาเทศ ซึ่งมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม (GDV) แล้วกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้าน Scientex บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของมาเลเซีย เจ้าของรางวัล “Top 10 Developers Award” จากเวที BCI Asia Awards 2023 ในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทสถาปัตยกรรมที่สร้างและออกแบบทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงสุด โดยคำนึงถึงขอบเขตของความพยายามด้านความยั่งยืน
คุณทาคาชิ เอกุชิ ผู้บริหาร ครีท กรุ๊ป กล่าวว่า “บริษัทฯ มีแนวทางการขยายการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นตลาดเป้าหมายที่สำคัญ ด้วยความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินธุรกิจของ อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จึงตัดสินใจร่วมทุนพัฒนาโครงการ อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนแรกกับอัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เมื่อปี 2019 การร่วมทุนพัฒนาโครงการ อัลติจูด คราฟ ไวบ์ บางนา ครั้งนี้ นอกจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของ อัลติจูด แล้วยังถือเป็นแผนยุทธศาสตร์ที่เน้นลงทุนต่อเนื่องในโครงการที่มีศักยภาพระดับพรีเมี่ยม”
“สำหรับมุมมองต่ออุตสาหกรรมตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยตอนนี้ แม้จะอยู่ในช่วงชะลอตัวแต่เชื่อมั่นว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแน่นอน การชะลอตัวของอุตสาหกรรมอสังหาฯ เป็นวัฐจักรที่เกิดขึ้นในทุกธุรกิจ แต่เรามองเห็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจประเทศ นักท่องเที่ยวกลับเข้ามา เงินลงทุนภาคการผลิตก็กลับมา เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว ใน 3-5 ปี อีกทั้งศักยภาพการเติบโตและการขยายตัวของเมือง นโยบายของภาครัฐ ข้อบังคับต่างๆ ที่รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมอสังหาฯ รวมไปถึงสถาบันการเงินที่สนับสนุนการกู้สินเชื่อบ้านทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้”
คุณเบ ชุน ชอง ผู้บริหาร Scientex กล่าวว่า “บริษัทฯ มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่เลือกเข้ามาลงทุน การขยายตัวของเมืองเป็นหนึ่งในตัวชี้วัด เพราะการเติบโตของอสังหาฯ สอดคล้องไปกับการเติบโตของจำนวนประชากรและการขยายตัวของเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ อัตราการเติบโตของประชากรในเมืองเพิ่มขึ้น 1.5% และอัตราความเป็นเมืองตอนนี้อยู่ที่ 50% สะท้อนถึงความสามารถในการรองรับการขยายตัวของเมืองที่สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากร ประเทศไทยจึงมีโอกาสในการเติบโต แม้เศรษฐกิจภาพรวมของอุตสาหกรรมอสังหาฯ จะชะลอตัว แต่ในภาพรวมก็เห็นแนวโน้มที่ดีสำหรับตลาดอสังหาฯ ในไทย เพราะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว กำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อาจจะโตแบบชะลอตัว และเป็นตลาดของคนที่ซื้ออยู่อาศัยเอง มากกว่านักลงทุน”
“การตัดสินใจเข้าร่วมทุน (Joint Venture Agreement) ในโครงการ อัลติจูด คราฟ ไวบ์ บางนา ครั้งนี้ เกิดจากความเชื่อมั่นในผลงานความสำเร็จที่ ครีท กรุ๊ป ร่วมทุนพัฒนาโครงการ อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ ซึ่ง Scientex กับ ครีท กรุ๊ป ก็ทำธุรกิจร่วมกันมานาน สิ่งสำคัญคือ ปรัชญาการทำงานที่คล้ายกัน ปรัชญาของบริษัทคือ ‘Provide a very quality for able goods’ สร้างบ้านที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่ง อัลติจูด ก็มองเรื่องการเพิ่มคุณค่าสินค้าที่ส่งมอบให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน”
คุณธัญญรัตน์ รีส์ กล่าวเสริมว่า “การผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ระดับโลกจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดอสังหาฯ เพราะเป็นการผนึกกำลังในรูปแบบของ Strategic Partner หรือพาร์ทเนอร์ที่ร่วมวางแผนกลยุทธ์ โดยนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทฯ มาแบ่งปันและทำงานร่วมกัน เช่น การบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของ Scientex ช่วยให้เราสามารถควบคุมต้นทุนและลดระยะเวลาการทำงาน ทำให้เรามีโอกาสแข่งขันกับคู่แข่งได้ พร้อมโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดด แม้จะรายล้อมไปด้วยดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่ของตลาด”
ปัจจุบัน อัลติจูด นอกจากจะเป็นผู้พัฒนาโครงการและที่ดินแล้วยังมีอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญคือ One Stop Service Solution คือการให้บริการในด้านบริหารโครงการ รวมไปถึงการให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Turnkey Development ซึ่งโมเดลการทำธุรกิจนี้ช่วยลดทุกปัญหาของความเสี่ยงและมอบผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างมากที่สุด และยังคงเปิดรับพันธมิตรร่วมลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจหรือมีที่ดินและต้องการคนเข้ามาพัฒนา อัลติจูดพร้อมให้บริการด้านการพัฒนาอสังหาฯ แบบครบวงจร
สำหรับโครงการ อัลติจูด คราฟ ไวบ์ บางนา (Altitude Kraf Vibe Bangna) พรีเมี่ยมทาวน์โฮมสไตล์มินิมอล 2-3 ชั้น พร้อมโอน มาพร้อมส่วนกลาง 24 ชั่วโมง บนสุดยอดทำเลของการอยู่อาศัยในโซนบางนา ใกล้ห้าง Mega Bangna ในราคาเริ่มต้น 2.99 – 4.59 ล้านบาท
นัดหมายเข้าชมโครงการพร้อมรับส่วนลดสุดพิเศษสูงสุด 500,000 บาท* โทร. 02 027 8989
แสดงความเห็น