จากเวทีสาธารณะว่าด้วยหลักนิติธรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลักสูตรผู้นำรุ่นใหม่ด้านหลักนิติธรรมและการพัฒนา หรือ RoLD Program ของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยหรือ TIJ โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานเมืองอัจฉริยะจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรวจภูธรภาค 2 มูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนา และหน่วยงานอื่นๆ ที่ให้ความร่วมมือในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณการจัดทำนวัตกรรมจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะต้นแบบยุคใหม่ให้ปลอดภัยน่าอยู่
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 จึงได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน ได้แก่ ส่วนราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา, สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา, ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา, สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและทำวิจัยร่วมกัน แก้ไขปัญหาของพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราในด้านการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมและยาเสพติด รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนและทำให้เมืองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City
ด้วยการสนับสนุนการวิจัยจากรองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตามนโยบายผู้นำนวัตกรรมระดับโลก “The World Master of Innovation” ของสถาบันฯ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. โดยรองศาสตราจารย์ ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมทีมนักวิจัยได้นำระบบ Smart Police (ระบบตำรวจอัจฉริยะ) มาใชัในโครงการการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมสำหรับเมืองฉะเชิงเทรา ที่ประกอบไปด้วยระบบดังต่อไปนี้ ระบบวิเคราะห์การตรวจจับการพกพาอาวุธ จำนวน 20 ระบบ ในพื้นที่ต้นเเบบที่มีความเสี่ยง ระบบวิเคราะห์ยานพาหนะบนท้องถนนจำนวน 2 ระบบ บนถนนสาย 314 ซึ่งเป็นเส้นทางการจราจรหลักของจังหวัดฉะเชิงเทรา และระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นับเป็นหัวใจสำคัญของโครงการป้องกันอาชญากรรม เพื่อ
- ใช้ในการวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์
- สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น การพกพาอาวุธ และการกระทำที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรมได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
- สามารถส่งสัญญานเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เมื่อตรวจพบเหตุการณ์ผิดปกติ ทำให้สามารถเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที
- กรณีหลบหนี สามารถนำป้ายทะเบียนมาค้นหาในระบบติดตามป้ายทะเบียน ทำให้ลดระยะเวลาการค้นหา และติดตามผู้กระทำความผิดได้ทันเวลา
นอกจากนี้ โครงการยังมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ส่วนงานราชการในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อให้สามารถพัฒนานวัตกรรมในชุมชนได้เอง และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน
โครงการนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว ยังถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของประเทศไทยในยุคของโลกนวัตกรรม การสร้างสังคมให้มีความปลอดภัยด้วยระบบ AI เป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวรวมถึงนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศมากยิ่งขึ้น ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาล
ประชาสัมพันธ์โดย : PIMDAWAN
ลงข่าว : วันที่ 24-07-67
แสดงความเห็น