สิงคโปร์, 7 ต.ค. 2567 /PRNewswire/ -- งาน Industrial Transformation ASIA-PACIFIC (ITAP) ครั้งที่ 7 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรม HANNOVER MESSE จัดโดย Constellar ร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติอย่าง Deutsche Messe เตรียมเปิดฉากระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม 2567 นี้ ณ Singapore EXPO งานในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่พลังการเปลี่ยนแปลงของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการผลักดันการผลิตแบบฟื้นฟู (regenerative manufacturing) ในยุคที่ประเทศต่าง ๆ มีนโยบายผลักดันการพัฒนาและการนำ AI มาใช้ในภาคอุตสาหกรรม[1] เพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว AI เป็นเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและกระบวนการต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมาย ESG พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โซลูชัน AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความยืดหยุ่น ปรับปรุงความปลอดภัยในที่ทำงาน ลดของเสีย และช่วยให้การผลิตสอดรับกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นการปูทางสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ITAP เป็นงานแสดงโซลูชันการผลิตระดับชั้นนำของภูมิภาค รวมถึงเป็นเวทีเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยปีนี้จะมีการแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันกว่า 400 รายการจากกว่า 30 ประเทศ รวมถึงผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Amazon Web Services, Azbil Corporation, Delta Electronics, Jungheinrich Singapore, Red Hat, SAP, Siemens และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีพาวิลเลียนระดับภูมิภาคและประเทศจากจีนแผ่นดินใหญ่ เยอรมนี ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการสร้างเครือข่าย การร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนความรู้ข้ามพรมแดนในตลาดที่คึกคักแห่งนี้

เปิดตัวรายงานอุตสาหกรรมฉบับแรกที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางในการนำ AI มาใช้

ITAP 2024 เตรียมเปิดตัวรายงานเจาะลึกอุตสาหกรรมฉบับแรกในหัวข้อ "Regenerative Manufacturing – Unlocking ASEAN's Growth through Design and AI" ซึ่งพัฒนาขึ้นร่วมกับ Kearney รายงานนี้เป็นฉบับแรกที่มุ่งเร่งการพลิกโฉมทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมการผลิตในอาเซียน โดยมีผู้บริหารระดับกลางถึงระดับสูงกว่า 350 คนจากอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ รวมถึงผู้บริหารระดับ CxO เข้าร่วมการสำรวจและสัมภาษณ์ รายงานนี้ศึกษาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์และบูรณาการโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อปลดล็อกการผลิตแบบฟื้นฟู (regenerative manufacturing) ซึ่งนำเสนอแนวทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตในอาเซียนเพื่อให้เติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว

รายงานฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มสำคัญ ให้ผู้ผลิตในภูมิภาคได้คว้าโอกาสในการเติบโต พร้อมให้ขั้นตอนที่นำไปปฏิบัติได้จริงเพื่อเริ่มต้นการผลิตแบบฟื้นฟู (regenerative manufacturing) ตัวอย่างเช่น ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 60% มองว่าการลงทุนด้าน AI เป็นแนวโน้มที่พบมากที่สุดในแวดวงการผลิต ตามด้วยการมุ่งเน้นด้าน ESG และความยั่งยืนระยะยาวที่เกือบ 50% โดยขั้นตอนต่าง ๆ ที่ระบุในรายงานนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลกำไรและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผู้ผลิตปรับตัวเพื่อการเติบโตในระยะยาวได้ นอกจากนี้รายงานดังกล่าวยังนำเสนอกรณีศึกษาจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่แนวปฏิบัติแบบฟื้นฟูจะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง

Mr. Keat Yap ผู้นำร่วมฝ่ายปฏิบัติการและประสิทธิภาพประจำเอเชียแปซิฟิกของ Kearney กล่าวว่า "นี่คือโอกาสทองสำหรับบรรดาผู้ผลิตในอาเซียน ในการสร้างการเติบโตมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และบริษัทต่าง ๆ ต้องมั่นใจว่าพร้อมรับกับสิ่งนี้แล้ว การเดินหน้าสู่การผลิตแบบฟื้นฟู (regenerative manufacturing) จะเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง พัฒนาไปพร้อมกับการเรียนรู้และการปรับตัว โดย Kearney ในฐานะที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก ภูมิใจที่ได้ขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกผ่านการผลิตแบบฟื้นฟู (regenerative manufacturing)"

รายงานฉบับนี้เขียนโดย Keat Yap (Partner) และ Young Han Koh (Principal) จาก Kearney ทั้งคู่ โดยทั้งสองจะนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ เวลา 11.40 น. ของวันแรกที่งาน Industrial Transformation Forum (ITF)

เรียนรู้แนวทางในการนำ AI ไปใช้ผ่าน AI Discovery Journey และ Industrial Transformation Forum ของ ITAP

ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 90% ในรายงานฉบับนี้มองว่าการลงทุนด้าน AI มีความสำคัญ ในขณะที่มีเพียง 23% เท่านั้นที่เป็นผู้นำในการนำ AI มาใช้ โดยทาง ITAP 2024 จึงได้จัดทำ AI Discovery Journey ให้ผู้เข้าร่วมงานค้นพบการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติตลอดห่วงโซ่คุณค่าการผลิตทั้งหมด ผู้เข้าร่วมงานสามารถสำรวจข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือที่นำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อนำ AI ไปใช้ในการดำเนินงานของตนเอง รวมทั้งสำรวจโซลูชัน AI ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใดของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลก็ตาม

การนำ AI มาบูรณาการยังเป็นประเด็นสำคัญใน Industrial Transformation Forum ปีนี้ด้วย การประชุมนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยได้รับการสนับสนุนจาก Strategic Knowledge Partner อย่าง Deloitte, Kearney และ McKinsey & Company เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกอย่างครอบคลุมและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากผู้นำทางความคิดระดับโลกกว่า 60 ท่าน ซึ่งหัวข้อสำคัญ ได้แก่

การใช้ AI ผลักดันภาวะผู้นำ การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล และรับมือความซับซ้อนของการผลิต เดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยการดำเนินงานอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างปลอดภัย การสร้างกลยุทธ์การผลิตอัจฉริยะที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางด้วยพลังของ AI การปรับแนวปฏิบัติในการผลิตที่ยั่งยืนให้สอดรับกับโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งในภาวะวิกฤต

ผู้เข้าร่วมงานสามารถชมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่าง Cantier X.O โดย Cantier Systems และ FORXAI Mirror โดย Konica Minolta Business Solutions Asia รวมถึงการแสดงโซลูชันอัจฉริยะและที่ขับเคลื่อนด้วย AI อื่น ๆ เช่น SAP Business AI ในซัพพลายเชนโดย SAP, Senseye Predictive Maintenance และระบบสินทรัพย์อัจฉริยะโดย Siemens, Contentserv Product Experience Cloud โดย Contentserv Inc, NMS-AIoT Application Server โดย Planet Technology Corporation, AI Autopilot และ Innoglas โดย Innowave Tech และอีกมากมาย

Peter Moore ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ Enterprise Cloud ของ SAP Asia Pacific Japan กล่าวว่า "Business AI มีศักยภาพในการสร้างคุณค่าอย่างมีนัยสำคัญให้กับลูกค้าและพันธมิตรของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับซัพพลายเชน ในงาน ITAP 2024 ทาง SAP จะแสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ สามารถ 'แสดงศักยภาพสูงสุด' ได้อย่างไรด้วยการปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนด้วยข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งผสานรวมเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจโดยเฉพาะ ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน SAP Business AI และเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมล่าสุดของเราในภาคอุตสาหกรรมนี้ได้ ทั้ง GROW with SAP, SAP Digital Supply Chain และโซลูชันด้านความยั่งยืน"

นอกจากนี้ Siemens ยังเตรียมจัดงานสร้างเครือข่าย Industrial AI ในวันแรก (14 ตุลาคม) เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าปัจจุบันและผู้ที่มีศักยภาพเป็นลูกค้า Siemens ในฐานะผู้บุกเบิก AI มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1970 พร้อมประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายทศวรรษในอุตสาหกรรมแบบแยกส่วนและแบบต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ AI ระดับอุตสาหกรรมเป็นที่เข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้าน AI เฉพาะทาง ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้วที่ Siemens เข้าร่วมงาน ITAP

Isabel Chong รองประธานอาวุโสฝ่ายอุตสาหกรรมดิจิทัลประจำอาเซียนของ Siemens กล่าวว่า "ในฐานะผู้นำในการพัฒนาและใช้ Industrial AI นั้น ทาง Siemens ได้ทุ่มเทมาอย่างยาวนานเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถของ AI ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และการผลิต การดำเนินงาน และการให้บริการ ที่งาน ITAP 2024 เราจะแสดงให้เห็นว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจของตนได้อย่างไรบ้าง โดยใช้ประโยชน์จากพลังของ AI เพื่อปฏิวัติวิธีการออกแบบ พัฒนา ผลิต และดำเนินงาน"

ไฮไลต์สำคัญอื่น ๆ ในงาน ITAP 2024

ITAP 2024 เตรียมให้การต้อนรับ DEXPO Robotics Zone @ ITAP เป็นครั้งแรก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์จากจีนที่มีชื่อเสียง 10 ราย[2] เพื่อแสดงให้เห็นว่า AI และหุ่นยนต์ขั้นสูง เช่น หุ่นยนต์อัจฉริยะและโซลูชันโลจิสติกส์อัจฉริยะ ขับเคลื่อนการทำงานอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพ และเปลี่ยนแปลงอนาคตของภาคการผลิตได้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ DEXPO ผนึกกำลังกับหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรของจีน จัดงาน World Artificial Intelligence Conference (WAIC) ซึ่งเป็นหนึ่งในงานด้าน AI ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแวดวงเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมระดับโลก และงาน China International Industry Fair (CIIF) หนึ่งในงานด้านอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในจีน ซึ่งจัดแสดงวัสดุ เทคโนโลยี และโซลูชันล่าสุด เพื่อยกระดับซัพพลายเชนการผลิตอัจฉริยะและยั่งยืนทั้งหมด

เทคโนโลยีที่จะจัดแสดงยังรวมถึงหุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ (cobot) และหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และการดูแลสุขภาพ ไปจนถึงยานพาหนะนำทางอัตโนมัติ (AGV) และระบบหุ่นยนต์นำทางด้วยการมองเห็นสำหรับการทำงานอัตโนมัติในคลังสินค้าและโลจิสติกส์ เซนเซอร์ความแม่นยำสูงเกรดอุตสาหกรรมสำหรับภาคส่วนหุ่นยนต์ ยานยนต์ การแพทย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ITAP 2024 ยังเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุม Red Hat Tech Summit by Red Hat Asia Pacific ครั้งแรกด้วย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันโอเพนซอร์สระดับองค์กรชั้นนำอันดับต้น ๆ ของโลก การประชุมสุดยอดที่ขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมนี้มาพร้อมเวิร์กช็อปเจาะลึก เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างโรงงานแห่งอนาคต ออกแบบสถาปัตยกรรมอุตสาหกรรมที่คุ้มค่า วางกลยุทธ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์อันล้ำหน้าสำหรับระบบอัตโนมัติ และเซสชันเชิงโต้ตอบเกี่ยวกับ Red Hat OpenShift AI และกรณีการใช้งานในแวดวงการผลิต

ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถรับข้อมูลเจาะลึกอนาคตของวงการผลิตและสำรวจนวัตกรรมล้ำสมัยได้ที่

InnoX Stage แพลตฟอร์ม show-and-tell แบบใหม่ สำหรับการนำเสนอและเซสชันแบบโต้ตอบที่นำโดยผู้จัดแสดง มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จาก DELTA, MISUMI South East Asia และ O2 Network การจัดแสดงจากสถาบันวิจัยและพัฒนาในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค และการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากสตาร์ตอัปอย่าง Augmentus, Autentica, Circular Unite, GAIA Tech, InnoArk, Invisu, Myrlabs, River Venture Studio และอื่น ๆ อีกมากมาย Industrial Innovation Stage มุ่งเน้นที่เทรนด์ล่าสุดในแวดวงตลาดและเทคโนโลยี ความร่วมมือ และกลยุทธ์เฉพาะของแต่ละประเทศ เพื่อปฏิรูปภาคการผลิตของประเทศเหล่านี้ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์และความรู้จากผู้จัดแสดงจากสิงคโปร์ เยอรมนี เวียดนาม และสหราชอาณาจักร ทั้ง AWS, Azbil, Red Hat, Contentserv และ Power Solutions Thematic Zone และ Industry-Led Pavilion นำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัย โซลูชันอัจฉริยะ และการประยุกต์ใช้โดยผู้เล่นสำคัญในภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนความเป็นเลิศและการร่วมมือในกลุ่มการผลิตต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังมีการสาธิตสดใน Industrial Transformation Experience Zone (โดย Singapore Polytechnic), Intelligent Sustainable Connecting Hub (โดย Delta) และ Intralogistics Experience Zone (โดย Jungheinrich) รวมทั้ง Made-In-China Pavilion (โดย Focus Technology Group), Startup AM Pavilion (โดย NAMIC) และ Smart Manufacturing Pavilion (โดย GSR United) ตัวอย่างเช่น โครงการ Company & Workforce Transformation (SP CWT) ของ Singapore Polytechnic เตรียมจัดแสดงโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมองค์กร ซึ่งรวมถึงระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI, ระบบ Robotic Process Automation (RPA), เซ็นเซอร์ IoT และอื่น ๆ

Global Additive Manufacturing Summit (GAMS) โดย NAMIC เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้และการสร้างเครือข่ายแบบครบวงจรสำหรับนักเรียน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และนักนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่า AM ที่ต้องการนำการผลิตแบบเพิ่มเนื้อวัสดุมาใช้ Standards Forum โดย Singapore Standards Council และ Enterprise Singapore ที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของมาตรฐานที่เปลี่ยนแปลงไป และค้นพบแนวทางปฏิบัติในการนำมาใช้และปฏิบัติตามมาตรฐานสำคัญทั้งระดับนานาชาติและท้องถิ่นในด้านความยั่งยืน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และปัญญาประดิษฐ์

โปรดดู Annex A: Exhibitors To Check Out, Annex B: Sessions To Check Out @ ITF 2024 และ Annex C: Corporate and Event Profiles

ทั้งนี้ ITAP 2024 ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น Agency for Science, Technology and Research (A*STAR), Economic Development Board (EDB), Enterprise Singapore (EnterpriseSG), JTC Corporation (JTC), SkillsFuture Singapore (SSG) และ Singapore Tourism Board (STB) ของสิงคโปร์ รวมถึงบรรดาผู้นำอุตสาหกรรมระดับโลกและผู้เล่นรายสำคัญในแวดวงธุรกิจทั่วภูมิภาค

ลงทะเบียนที่นี่เพื่อเข้าร่วมงาน ITAP 2024 ติดตาม ITAP เพื่อดูข่าวสารล่าสุดได้ทาง LinkedIn และ Facebook