ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 14 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ -- ขณะที่ e& UAE เตรียมพร้อมเพื่อสร้างชื่อเสียงครั้งสำคัญที่ GITEX Global แรงผลักดันและความก้าวหน้าของบริษัทก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ หลังจากที่ e& UAE เพิ่งได้รับตำแหน่ง 'เครือข่าย 5G ที่เร็วที่สุดในโลก' จาก Ookla มาไม่นาน บริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัยที่เกิดขึ้นจากหัวใจหลักด้านโทรคมนาคมที่ทันสมัยที่สุดของตน


e& stand at GITEX Global

e& UAE ให้บริการเครือข่าย 5G แก่ผู้ใช้งาน 12 ล้านรายทุกวัน เพื่อนำพาพวกเขาสู่จุดสูงสุดของการเชื่อมต่อระดับโลก "เครือข่ายความเร็วสูงเป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมต่อองค์ประกอบต่าง ๆ ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าด้วยกัน รวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลและการเข้าถึงทรัพยากรบนคลาวด์" Masood กล่าว และเสริมว่า "โดยพื้นฐานแล้ว AI เป็นผลลัพธ์ของโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนซึ่งผสานกันระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่าย เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาและการนำระบบอัจฉริยะไปใช้งาน"

สำหรับ e& UAE นั่นหมายถึงการรับปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้อย่างต่อเนื่องในฐานะองค์ประกอบหลักของกลยุทธ์การสร้างนวัตกรรมของบริษัท ซึ่งมีประวัติความสำเร็จในการนำโซลูชัน AI เข้ามาใช้ดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และตามที่ Masood กล่าวไว้ "AI เป็นจุดที่เรามองเห็นศักยภาพที่แท้จริงในการเปลี่ยนแปลง"

ด้วยวิสัยทัศน์นี้ e& UAE วางแผนที่จะสร้างผลงานสำคัญใน GITEX โดยนำเสนอนวัตกรรม AI ล่าสุดและแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในภูมิทัศน์ดิจิทัล

มากกว่าแค่โทรคมนาคม: การก้าวกระโดดทางดิจิทัลของ e& UAE

"AI ถูกผสานเข้ากับการดำเนินงานของเราทั่วทุกด้าน ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและรวดเร็วขึ้น รวมถึงขับเคลื่อนให้เกิดประสิทธิภาพใหม่ๆ ในธุรกิจและการบริการลูกค้า" เขากล่าว ทั้งนี้ e& UAE เป็นผู้บุกเบิกในการนำ AI มาใช้ภายในองค์กร แต่ผลสำคัญที่แท้จริงอยู่ที่การมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า ตัวอย่างที่ดีคือ EASE ประสบการณ์การค้าปลีกโทรคมนาคมระบบอัตโนมัติเป็นครั้งแรกของโลกที่เปิดตัวที่ GITEX เมื่อปีที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นมา e& UAE ได้ขยายขอบเขตและความสามารถของแนวคิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการใช้ AI เพื่อสร้างโซลูชันที่มุ่งเน้นไปยังลูกค้าเป็นหลัก

บริษัทกำลังสร้างชื่อเสียงอย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านดิจิทัล โดยนำเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อล้ำสมัยที่ขับเคลื่อนด้วย 5G และการผสานเทคโนโลยี AI และ IoT อย่างเป็นบูรณาการ การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้เป็นหัวใจสำคัญของการมีส่วนร่วมของ e& UAE ที่ GITEX ซึ่งบริษัทจะนำเสนอบริการดิจิทัลเชิงนวัตกรรมและวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต

ไฮไลต์สำคัญที่งาน GITEX

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน GITEX ซึ่งเป็นเวทีแห่งอนาคตที่น่าตื่นเต้น โดยรวมตัวสุดยอดมันสมองจากทั่วโลกเพื่อร่วมจินตนาการและสร้างเทคโนโลยีของโลกอนาคตที่ดีกว่า" Masood กล่าว

นอกจากโซลูชันบ้านอัจฉริยะและเทคโนโลยีโดรนล่าสุดแล้ว ผลงานจัดแสดงของบริษัทจะรวมถึงแอปพลิเคชันขั้นสูงในด้านปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีเสมือนจริง (augmented reality) และเทคโนโลยี 5G ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หนึ่งในคุณลักษณะพิเศษที่โดดเด่นคือ Hologram Customer Service Avatar ที่มีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบโต้ตอบระหว่างกันได้ อวตารนี้จะใช้ความสามารถอัจฉริยะและความละเอียดระดับ ultra-HD เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการในลักษณะสมจริงยิ่งขึ้น การผสานเทคโนโลยี 5G New Calling จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานไปอีกขั้น ด้วยการให้บริการการโทรด้วยภาพ การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และเนื้อหามัลติมีเดียระหว่างการโทร

เพื่อเป็นการสานต่อธรรมเนียมการประกาศความสำเร็จด้านเครือข่าย 5G ในงาน GITEX ก่อนหน้านี้ e& UAE ได้ประกาศการอัปเกรดความเร็วเครือข่าย รวมถึงความเร็ว 5G-Advanced ที่รวบรวมได้เร็วที่สุดที่ 62Gbps เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้าน 5G e& UAE ยังเน้นย้ำความสำเร็จของตนในฐานะเครือข่าย 5G-Advanced เชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค MENA โดยมีไซต์ปฏิบัติงานมากกว่า 1,000 แห่ง ความสำเร็จที่เป็นหมุดหมายสำคัญนี้เป็นจุดเริ่มต้นของยุค 10G ที่จะมอบความเร็วที่เหนือชั้นและความหน่วงเวลาที่ต่ำมาก ซึ่งจะกำหนดนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ดิจิทัล ในงาน GITEX บริษัทจะไม่เพียงแค่แสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าประทับใจ แต่ยังเปิดเผยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทเพื่ออนาคตของโลกดิจิทัล ในปัจจุบันบริษัทกำลังขยายการเข้าถึงไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยสานต่อความสำเร็จในการติดตั้งเครือข่าย 5G ส่วนบุคคลในภาคน้ำมันและก๊าซร่วมกับ ADNOC

"ความสำเร็จของ AI, IoT และ 5G ขึ้นอยู่กับการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม ซึ่งหมายถึงการทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สตาร์ตอัป และหน่วยงานรัฐบาล เพื่อให้มั่นใจว่าเรากำลังสร้างโซลูชันที่เหมาะสมให้แก่อนาคต" Masood กล่าว

ทำให้เครือข่ายพร้อมสำหรับ AI

หัวใจสำคัญของพันธกิจของ e& UAE ในการบุกเบิกแนวหน้าดิจิทัลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเชื่อมต่อความเร็วสูง ตัวอย่างเช่น 50G-PON ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อความเร็วสูงรุ่นอนาคตนั้นมีศักยภาพที่จะสามารถปฏิวัติการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมอบขีดความสามารถในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และเร่งความเร็วให้แก่การดำเนินงานต่าง ๆ ของผู้บริโภคและธุรกิจได้อย่างสูง

"กลยุทธ์ของเราฝังรากลึกอยู่ในความเชื่อที่ว่าพวกเราสามารถบรรลุความสำเร็จให้มากกว่าเดิมได้เพื่อผู้คนและชุมชนที่เราให้บริการ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต สร้างโอกาสได้มากขึ้น และสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ขึ้น พร้อมด้วยการผสมผสานความหลงใหลในความเป็นเลิศ ขณะที่เราพัฒนาตนเองให้นอกเหนือกว่าการเป็นบริษัทโทรคมนาคมแบบเดิม ๆ เราก็กำลังยกระดับบริการและปรับแต่งข้อเสนอของเราเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า

ความเป็นผู้นำระดับโลกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในด้านความเร็วบรอดแบนด์และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดังที่ได้รับการยอมรับจาก Ookla นั้นส่วนใหญ่มาจากการมีส่วนร่วมสร้างผลงานของ e& UAE "เราเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเรายืนหยัดเคียงข้างประเทศนี้ เพื่อช่วยสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเชื่อมโยงกันมากขึ้น" Masood สรุป

ข้อมูลติดต่อ: Nancy Sudheer, ผู้จัดการอาวุโสของ e&, อีเมล: nsudheer@eand.com 

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2529931/e_GITEX_2024.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2529932/stand_GITEX.jpg?p=medium600


CEO of e& UAE, Masood M. Sharif Mahmood, and CEO of e& life and e& international Khalifa Al Shamsi, with His Highness Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum, Vice President and Prime Minister of the United Arab Emirates and Ruler of Dubai at GITEX Global

ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - มองไปสู่อนาคตที่ GITEX: วิสัยทัศน์ของ e& UAE เพื่ออนาคตที่ชาญฉลาดด้วยปัญญาประดิษฐ์ https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4530111_TH30111_10