ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 9 พ.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระหว่างงาน Innovative Product Launch ที่จัดโดยหัวเว่ย (Huawei) ในดูไบ บริษัทได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สวมใส่ เครื่องเสียง และผลิตภัณฑ์สำนักงานอัจฉริยะรุ่นใหม่ ประกอบด้วย HUAWEI WATCH FIT 3 โฉมใหม่ล่าสุด HUAWEI MateBook X Pro รุ่นอัปเกรดโฉมใหม่ และแท็บเล็ตเครื่องแรกของ Huawei ที่มาพร้อม PaperMatte Display รุ่นล่าสุด ไปจนถึง HUAWEI MatePad 11.5"S และอื่น ๆ อีกมากมาย
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแบรนด์เนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่มีการจัดงานระดับนานาชาติในสเกลดังกล่าว ครอบคลุมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตลาดต่าง ๆ พร้อมกัน โดยหัวเว่ยไม่เพียงแต่นำเสนอฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยแก่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปิดตัวโซลูชันซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเองเช่นแอป GoPaint พร้อมกันนี้ Huawei ยังจะร่วมถ่ายทอดผลของ HUAWEI XMAGE ที่มีต่อวงการการถ่ายภาพด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพบนมือถือ ผ่านการจัดงานในดูไบภายใต้ชื่อ 'A Heartwarming World—12 Years of Huawei Photography' ภายหลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้
HUAWEI WATCH FIT 3: การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแฟชั่น กีฬา และเทคโนโลยี
สโลแกน "Fashion Forward" สามารถสื่อถึงแก่นแท้ของอุปกรณ์สวมใส่ของ Huawei ได้อย่างแม่นยำ สะท้อนความมุ่งมั่นในการรักษาไว้ซึ่งตำแหน่งแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่างแท้จริง WATCH FIT 3 รุ่นใหม่ล่าสุดนำเสนอดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมสุดคลาสสิกของ FIT รุ่นก่อนหน้า ในขณะที่วัสดุและกระบวนการผลิต การออกแบบเชิงปฏิสัมพันธ์ และตัวเลือกสีของสายที่เพิ่มมากขึ้นได้แสดงให้เห็นถึงการยกระดับอย่างครอบคลุม นวัตกรรมทั้งหมดในองค์ประกอบการออกแบบทำให้แนวคิด "Fashion Squared" ของ Huawei สะท้อนออกมาได้อย่างสอดคล้องกัน จอแสดงผล AMOLED แบบลอยความละเอียดสูงขนาดใหญ่พิเศษ 1.82" มอบประสบการณ์การรับชมภาพสามมิติที่กว้างขึ้น ขณะที่ตัวเรือนนาฬิกาอะลูมิเนียมอัลลอยมาพร้อมกับพื้นผิวที่บางเพียง 9.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 26 กรัม เทียบเท่าผลสตรอเบอรี ทำให้เป็นนาฬิกาที่เบาและบางที่สุดในซีรีส์ ด้วยตัวเลือกสีที่หลากหลายและ UX ที่มีชีวิตชีวาซึ่งผสานรวมเข้ากับดีไซน์เม็ดมะยมอย่างลงตัวทำให้ WATCH FIT 3 ไม่เพียงแต่ใช้งานง่าย แต่ยังเป็นนาฬิกาข้อมือที่สามารถดึงดูดทุกสายตา
ในด้านฟิตเนส HUAWEI WATCH FIT 3 ตั้งเป้าที่จะเป็นเทรนเนอร์ส่วนบุคคลบนข้อมือของผู้ใช้ ด้วยแอป Stay Fit ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างละเอียด ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลด้านอาหารที่ครอบคลุมกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่เพื่อการวิเคราะห์ทางโภชนาการ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างสมดุลระหว่างอาหารและการออกกำลังกาย และใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เพื่อให้ทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างถูกวิธีและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น WATCH FIT 3 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Smart Sports ที่คอยให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกายรูปแบบเฉพาะในช่วงระยะเวลาที่กำหนด โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้ใช้ สภาพอากาศ และสถานะบน Activity rings เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้พัฒนาพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ
ในด้านการตรวจติดตามสุขภาพ WATCH FIT 3 มาพร้อมฟีเจอร์ HUAWEI TruSleep™4.0 ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างครอบคลุมจากรุ่นก่อนหน้า TruSleep™4.0 นำเสนอตัวบ่งชี้ทางสรีรวิทยาที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ระบบคะแนนการนอนหลับที่ได้รับการปรับปรุง การตีความรูปแบบการนอนหลับและคำแนะนำที่ถูกปรับให้เหมาะสม นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Sleep Breathing Awareness โฉมใหม่ยังช่วยให้ผู้ใช้นอนหลับได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น WATCH FIT 3 ยังมาพร้อมตัวบ่งชี้สุขภาพ HUAWEI TruSeen™ 5.5 ที่มอบการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่เสถียรยิ่งขึ้นกว่าเดิม 30% ขณะที่อินเทอร์เฟซ SpO2 ยังได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบ SpO2 ปัจจุบันของตนได้ภายในเวลาเพียง 25 วินาที
MateBook X Pro และ MatePad 11.5"S โฉมใหม่: อุปกรณ์เพื่อการสร้างสรรค์อย่างสนุกสนาน
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในดูไบ ภายใต้แนวคิด "Creation of Beauty" สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงด้านแนวคิดผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย จากสำนักงานอัจฉริยะสู่การสร้างสรรค์ความงาม โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์และความสวยงาม และดึงเอาความคิดสร้างสรรค์ในตัวของผู้ใช้ทุกคนออกมาได้
HUAWEI MateBook X Pro เวอร์ชันใหม่ล่าสุดได้ส่งต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยี การออกแบบที่สวยงาม และประสบการณ์อัจฉริยะที่ฝังลึกอยู่ในพีซีของหัวเว่ยมาอย่างยาวนาน ความก้าวหน้าทางเทคนิคนี้ทำให้หัวเว่ยสามารถสร้างแล็ปท็อปที่เบาและทรงพลังได้ในเครื่องเดียวกัน โดยอุปกรณ์ทั้งหมดมีน้ำหนักเพียง 980 กรัม และหนาเพียง 13.5 มิลลิเมตร ทำให้กลายเป็นแล็ปท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูง Intel® Core™ Ultra 9 ที่มีน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม
หัวเว่ยได้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นระบบมาใช้ร่วมกับ MateBook X Pro ตั้งแต่องค์ประกอบระดับล่างสุด เช่น สถาปัตยกรรม HUAWEI Cloud Falcon และระบบกระจายความร้อนแบบ Shark Fin ไปจนถึงเทคโนโลยีประสิทธิภาพการปรับตัว Super Turbo เกิดเป็นประสิทธิภาพอันทรงพลังที่พร้อมสนับสนุนผู้ใช้งานในการสร้างสรรค์ผลงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ สถาปัตยกรรม HUAWEI Cloud Falcon ที่ช่วยทำให้ MateBook X Pro มีน้ำหนักเบาลง ยังทำให้การจัดวางส่วนประกอบภายในของแล็ปท็อปมีความกะทัดรัดยิ่งขึ้น มอบประโยชน์ที่จับต้องได้ในแง่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ การกระจายความร้อน และการสร้างเสียง นอกจากนี้ ระบบกระจายความร้อน Shark Fin ยังได้รับการพัฒนาอย่างครอบคลุม ทำให้ซอฟต์แวร์ทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในสถานการณ์ที่มีภาระงานหนัก เช่น การเรนเดอร์วิดีโอ 4K หรือการคอมไพล์โค้ด ขณะที่ Super Turbo รุ่นล่าสุดช่วยจัดสรรทรัพยากรระบบอย่างชาญฉลาด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบูตและเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และสลับระหว่างงานต่าง ๆ ได้ภายในเวลาหน่วยมิลลิวินาที
แนวคิด "Creation of Beauty" ที่นำเสนอในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในอิเวนต์ล่าสุดของหัวเว่ยที่ดูไบในปีนี้ ด้วยการเปิดตัว HUAWEI MatePad 11.5"S แท็บเล็ตเพื่อประสิทธิผลในการทำงานเครื่องแรกที่มาพร้อมจอแสดงผล HUAWEI PaperMatte Display รุ่นใหม่ โดยหัวเว่ยได้เปิดเผยข้อมูลจำเพาะที่น่าประทับใจของ HUAWEI MatePad 11.5"S ซึ่งประกอบด้วยอัตราส่วนภาพขนาด 3:2 (ใกล้เคียงกับ "อัตราส่วนทองคำ") อัตรารีเฟรชที่ 144 Hz และความละเอียด 2.8K
การออกแบบที่ทันสมัยของจอแสดงผล PaperMatte ยังช่วยลดการสะท้อนแสงบนพื้นผิวลงเหลือต่ำกว่า 2% และลดการรบกวนของแสงได้ถึง 99% ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านข้อความหรือดูวิดีโอได้อย่างสะดวกสบายในสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่มีแสงสว่างจ้า หรือแม้แต่ท่ามกลางแสงแดดกลางแจ้ง
แท็บเล็ตรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับแอป Notes ที่มีการติดตั้งไว้ล่วงหน้า ผู้ที่เคยใช้แอป Notes มาแล้วก่อนหน้าจะได้พบกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Note Replay ซึ่งช่วยให้การจดบันทึกระหว่างการอัดเสียงการประชุมเป็นเรื่องง่าย โดยผู้ใช้สามารถแตะบันทึกเพื่อย้อนกลับไปยังจุดเวลาที่สอดคล้องกันของการบันทึกเสียง ทำให้การเรียกค้นข้อมูลง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
แอปวาดภาพที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นเอง: เครื่องมือสร้างสรรค์สำหรับทุกคน
เพื่อนำความสุขในการวาดภาพมาสู่ผู้ใช้ทุกคน หัวเว่ยจึงได้เปิดตัวแอป GoPaint ที่พัฒนาขึ้นเอง
แอปดังกล่าวได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย Huawei 2012 Laboratories และทีมวิจัยและพัฒนาอื่น ๆ จาก 8 สาขา ทั้งด้านวัสดุ ออปติกกายภาพ และการเรนเดอร์กราฟิก หัวเว่ยยังทำงานร่วมกับทีมวิจิตรศิลป์ชั้นนำเพื่อสร้างแอปที่มาพร้อมเอฟเฟกต์การเขียนและระบายสีที่สดใสและสมจริง นำเสนอแปรงเสมือนที่แตกต่างกันมากกว่า 100 แบบและพื้นผิวที่สมจริง ทำให้ผู้ใช้สามารถวาดภาพบนผืนผ้าใบที่สมจริงและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ GoPaint ยังใช้ FangTian Painting Engine ที่สามารถรองรับเลเยอร์จำนวนมากได้ มีเวลาแฝงต่ำ และเฟรมเรตสูงเพื่อการตอบสนองต่อฝีแปรงของผู้ใช้ในทันที เมื่อรวมเข้ากับประสิทธิภาพอันทรงพลังของแท็บเล็ตจากหัวเว่ยแล้ว GoPaint จึงกลายเป็นแอปสำหรับการวาดภาพอย่างแท้จริง มอบความเป็นมืออาชีพ ชาญฉลาด และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งนักวาดมือสมัครเล่นและศิลปินมืออาชีพ
หัวเว่ยใช้เวลากว่าสามปีในการวิจัยและพัฒนาแอป GoPaint แม้ว่าทรัพยากรที่อุทิศให้แก่การพัฒนาครั้งนี้จะเพียงพอสำหรับการพัฒนาแท็บเล็ตรุ่นใหม่ แต่เป้าหมายหลักของหัวเว่ยคือการทำให้ผู้ใช้แท็บเล็ตทั่วโลกมีแอปวาดภาพที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ด้วยความหวังว่าทุกคนจะสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามได้
หัวเว่ยยังเปิดเผยด้วยว่า แอป GoPaint จะรวมฟังก์ชันการสอนการใช้งานที่ครบครัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเครื่องมือแต่ละอย่างภายในแอป โดยผู้ใช้สามารถเรียนรู้ได้ขณะใช้งานจริง เริ่มต้นจากฟังก์ชันอย่างง่ายและค่อย ๆ ขยับไปสู่ฟังก์ชันในระดับที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ งาน Innovative Product Launch ของหัวเว่ยในดูไบยังครอบคลุมการเปิดตัว FreeBuds 6i ที่มาพร้อมการยกระดับความสามารถในการตัดเสียงรบกวน และ HUAWEI MateBook 14 แล็ปท็อปที่ประกอบด้วยจอแสดงผล OLED 2.8K ระดับมืออาชีพ นาฬิการุ่น HUAWEI WATCH GT 4 ซึ่งวางจำหน่ายแล้วในสีเขียว และ HUAWEI WATCH 4 Pro Space Edition ที่พร้อมอวดโฉมในดีไซน์ธีมอวกาศที่สวยงาม นอกจากนี้ ไม่กี่วันหลังจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 8-10 พฤษภาคม หัวเว่ยจะจัดนิทรรศการภายใต้ชื่อ "A Heartwarming World—12 Years of Huawei Photography" ณ ศูนย์จัดแสดง Concrete โดย Alserkal Avenue ในดูไบ โดยจะเป็นนิทรรศการภาพถ่ายที่ใหญ่ที่สุดที่หัวเว่ยเคยจัดขึ้น ผู้ที่สนใจยังสามารถรับชมผลงานภาพถ่ายอันน่าทึ่งภายในงานผ่านทางออนไลน์บนโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของหัวเว่ย
แสดงความคิดเห็น