กรุงเทพมหานคร, 6 พ.ย. 2567/PRNewswire/ -- URBAN REVIVO(UR) เตรียมเปิดร้านโฉมใหม่อีกครั้งที่ ICONSIAM หนึ่งในศูนย์การค้าที่น่าทึ่งที่สุดในกรุงเทพฯ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัท การเปิดร้านใหม่ครั้งนี้จะมาพร้อมกับการเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่ที่เชิญชวนให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ร้านที่อัปเกรดใหม่และข้อเสนอสุดพิเศษด้วยตัวเอง

UR ICONSIAM Store
UR ICONSIAM Store

การเปลี่ยนแปลงจากแฟชั่นตามกระแส (fast fashion) แบบเดิม

URBAN REVIVO มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามแนวทางการค้าปลีกแบบมาตรฐาน ไม่เหมือนรูปแบบแฟชั่นตามกระแสเดิม ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการผลิตจำนวนมากและความคุ้มทุน โดยการปรับปรุงร้านล่าสุดครั้งนี้เป็นตัวอย่างของกลยุทธ์ดังกล่าว

ร้านอัปเกรดใหม่จะจัดแสดงดีไซน์ที่ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดพร้อมกับความเป็นศิลปะที่ไม่ซ้ำใคร หน้าร้านโฉมใหม่ที่มาในธีม "เติบโต" นั้นเน้นสัญลักษณ์ของกล้วยไม้ ซึ่งมีความหมายทางวัฒนธรรมที่สำคัญในประเทศไทย โดยกล้วยไม้เป็นตัวแทนแห่งความลึกลับ เสน่ห์ สิ่งหายาก และความหรูหรา และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความประณีตและความสง่างามซึ่งมักใช้ในพิธีกรรมและชีวิตประจำวัน สัญลักษณ์ที่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันนี้สื่อถึงความมุ่งมั่นของ URBAN REVIVO ที่จะสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง

แทนที่จะพึ่งพาดีไซน์แบบ one-size-fits-all URBAN REVIVO ปรับแต่งร้านให้สะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละสถานที่ โดยแปลงโฉมร้านให้กลายเป็นศูนย์ศิลปะในเมืองที่เน้นประสบการณ์ผู้บริโภค ร้านเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางที่เป็นจุดบรรจบของแฟชั่น ศิลปะ และสุนทรียศาสตร์ในเมือง เป้าหมายคือการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับผู้บริโภค โดยมอบประสบการณ์แฟชั่นที่เป็นมากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ พื้นที่ช้อปปิ้งกลายเป็นบทสนทนาที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดสายตาและมีความอินเตอร์แอกทีฟ

บรรณาธิการข่าวค้าปลีกของ Business Insider Singapore ยังได้เน้นย้ำถึงแนวทางของ URBAN REVIVO เมื่อไม่นานนี้ หลังจากที่ได้เยี่ยมชมร้าน URBAN REVIVO สาขา Jewel Changi Airport ที่สิงคโปร์ บรรณาธิการได้กล่าวไว้ในบทความว่าสภาพแวดล้อมของร้านนั้นออกแบบมาอย่างบรรจง โดยบทความระบุว่า "Urban Revivo ให้ความรู้สึกราวกับว่าได้คัดสรรพื้นที่ของร้านมาอย่างตั้งใจโดยคำนึงถึงความลื่นไหล สินค้าถูกจัดแสดงไว้ตามช่องทางเดินเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเดินตามทางที่วางไว้" นอกจากนี้ ร้านยังมีซุ้มโค้งที่เพิ่มความน่ามองให้กับดีไซน์ ขณะที่แสงไฟที่สลัวกว่าสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเชิญชวนให้เข้าร้านมากขึ้น องค์ประกอบการออกแบบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งเน้นของ URBAN REVIVO ในการปรับปรุงประสบการณ์การช้อปปิ้งผ่านสถาปัตยกรรมและการออกแบบอย่างใส่ใจ

การขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทย

การเปิดร้านใหม่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ URBAN REVIVO ในประเทศไทย โดยประเทศไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะตลาดสำคัญในการเติบโตระดับนานาชาติของแบรนด์ URBAN REVIVO นอกจากร้านค้าที่มีอยู่แล้วสองแห่งใน ICONSIAM และบางกะปิแล้ว URBAN REVIVO ยังมีแผนที่จะเปิดร้านค้าใหม่ในศูนย์การค้าชื่อดังอีกสองแห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ และวัน แบงค็อก มอลล์ ภายในสิ้นปี 2567 การเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นของแบรนด์ที่มีต่อตลาดในประเทศไทย และความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก

งานเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ในธีม "Fashion Station"

งานเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของ URBAN REVIVO ณ ICONSIAM จัดขึ้นภายใต้ธีมสุดสร้างสรรค์ "Fashion Station" โดบแนวคิดนี้เปรียบ URBAN REVIVO เป็นรถไฟแฟชั่นที่เดินทางมาถึง ICONSIAM ในประเทศไทย เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนได้หยุดและสำรวจเทรนด์แฟชั่นและการผสมผสานระหว่างศิลปะและแฟชั่น ผู้เข้าร่วมงานสามารถเพลิดเพลินกับของขวัญที่ระลึกและถ่ายรูปกับผลงาน "Fashion Station" ขอเชิญร่วมเฉลิมฉลองการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครนี้

เกี่ยวกับ Urban Revivo

URBAN REVIVO (UR) ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 เป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำที่มุ่งมั่นที่จะยกระดับแฟชั่นชั้นสูงในราคาที่จับต้องได้ด้วยการนำเสนอดีไซน์ที่สร้างสรรค์ คุณภาพสูง และยั่งยืน ด้วยหน้าร้านมากกว่า 400 แห่งในจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ และเครือข่ายออนไลน์ที่ครอบคลุมในยุโรป อเมริกาเหนือ และทั่วโลก UR รับประกันมาตรฐานสูงสุดผ่านการจัดการห่วงโซ่อุปทานและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยพันธกิจของแบรนด์คือการทำให้แฟชั่นคุณภาพสูงเข้าถึงได้สำหรับทุกคน และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก 


ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - URBAN REVIVO เตรียมเปิดร้านโฉมใหม่ที่ ICONSIAM กรุงเทพฯ https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4546353_TH46353_10