ซานฟรานซิสโก, 4 กุมภาพันธ์ 2568 /PRNewswire/ -- Sojern แพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลชั้นนำที่สร้างขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีความยินดีที่จะประกาศเปิดตัวรายงาน "State of Destination Marketing 2025" สำหรับองค์กรการตลาดปลายทาง (Destination Marketing Organizations: DMOs) รายงานฉบับนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Sojern และ Benchmark Research Partners โดยได้รับการสนับสนุนจาก Brand USA, Destination Canada, คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวยุโรป (European Travel Commission) และองค์การท่องเที่ยวแคริบเบียน (Caribbean Tourism Organization) โดยเป็นการต่อยอดจากรายงานปี 2567 และเน้นถึงแนวโน้มการทำการตลาดจุดหมายปลายทางสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน
Logo, no tagline
"องค์กร DMO ถึง 85% กำลังคงหรือเพิ่มงบประมาณโฆษณาดิจิทัลให้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว" Noreen Henry ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Sojern กล่าว "องค์กร DMO ลงทุนกับงบประมาณของตนมากขึ้นและนำกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นมาใช้ ทำให้จำต้องแสดงให้เห็นผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ต้องใช้เครื่องมือและข้อมูลขั้นสูงเพื่อดึงดูดนักเดินทางตลอดทุกขั้นตอนของกรวยการตลาด"
ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก DMO หน่วยงานรัฐบาล และองค์กรด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องเกือบ 200 แห่งทั่วโลก รายงานฉบับนี้เผยให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างแข็งแกร่งของการโฆษณาดิจิทัล
แคมเปญที่ซับซ้อนและความท้าทายที่เพิ่มขึ้น
องค์กร DMO ต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น การจัดการทรัพยากรที่มีจำกัด ขณะเดียวกันก็ยังต้องแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจน ความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เกิดความกดดันสูงให้สร้างผลลัพธ์ และแคมเปญแบบหลายช่องทางที่ได้ก็มีลักษณะเชิงเทคนิคและซับซ้อนมากขึ้น ขณะที่องค์กร DMO 60% ใช้การคลิกเป็นตัวชี้วัดหลัก 54% ประสบปัญหากับการแสดงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างชัดเจน และ 37% ระบุว่าการติดตามและการวัดผลเป็นอุปสรรคหลักในการจัดการแคมเปญการตลาดที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของกระบวนการตัดสินใจของลูกค้า (full-funnel campaign)
ปัจจุบัน 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับการซื้อขายพื้นที่โฆษณาออนไลน์แบบอัตโนมัติ (programmatic advertising) เนื่องจากความสามารถในการติดตามผล ความแม่นยำ และความคุ้มค่าของต้นทุนของรูปแบบโฆษณาดังกล่าว ทำให้องค์กร DMO สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โฆษณาแบบดิสเพลย์ (97%) โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย (90%) และการตลาดผ่านเสิร์ชเอนจิน (80%) ยังคงเป็นช่องทางหลักในกลยุทธ์การใช้สื่อแบบชำระเงินของ DMO
การนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้: โอกาสที่กำลังเติบโต
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนโฉมการตลาดปลายทาง โดยมีองค์กร DMO 63%ใช้ AI สำหรับการสร้างเนื้อหา แต่มีเพียง 28% ที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเน้นให้เห็นถึงโอกาสอันมหาศาลในการใช้ AI เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น การแก้ไขปัญหาทรัพยากรที่จำกัดและช่องว่างด้านการฝึกอบรมจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่
แคมเปญการตลาดแบบระยะยาวอย่างต่อเนื่อง (Always-On) เทียบกับแคมเปญตามฤดูกาล
แต่เดิม DMO มักใช้กลยุทธ์แคมเปญตามฤดูกาลมากกว่า อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้เผยว่า 52% ของ DMO ตอนนี้ให้ความสำคัญกับแคมเปญแบบแบบระยะยาวอย่างต่อเนื่อง (Always-On) มากกว่าแคมเปญตามฤดูกาล (40%) แคมเปญแบบระยะยาวนี้ให้ผลลัพธ์ที่ดี โดย 42% ของ DMO รายงานว่าสามารถปรับปรุงให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นได้อันเป็นผลที่มีนัยสำคัญที่สุดจากการใช้กลยุทธ์นี้ ซึ่งส่งผลกับผลการดำเนินงานโดยรวมของแคมเปญ
DMO กำลังปรับปรุงเพื่อพัฒนาการสร้างแคมเปญให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ตัวอย่างเช่น 66% มุ่งเน้นความสำคัญที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง แต่มีเพียง 15% ที่ใช้เทคนิคการปรับแต่งเนื้อหาเฉพาะบุคคลขั้นสูงซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนข้อเสนอแบบเรียลไทม์ในทุกช่องทาง นี่จะมอบโอกาสครั้งใหญ่เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับนักเดินทางยิ่งขึ้นในทุกขั้นตอนของกระบวนการตัดสินใจของพวกเขา
การสร้างแบรนด์กำลังกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น
ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การระบาดทั่วโลกของโควิด-19 องค์กร DMO ต่างจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดการจองและสร้างผลลัพธ์ระยะสั้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัว แต่ในปัจจุบันที่อุตสาหกรรมนี้เกิดเสถียรภาพมากขึ้น องค์กร DMO จึงกำลังปรับสมดุลใหม่ ด้วยการใช้แคมเปญที่ใช้แนวทางกลยุทธ์ระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักจึงเริ่มมีความสำคัญยิ่งขึ้น โดยสามารถเห็นการเปลี่ยนทิศทางดังกล่าวได้อย่างชัดเจนจากการดำเนินงานแคมเปญ ซึ่งในตอนนี้ถูกแบ่งออกเป็น 50/50 ระหว่างกลยุทธ์แบบเฉพาะแต่ละขั้นตอนและแบบครอบคลุมทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากปี 2567 ที่กลยุทธ์แบบครอบคลุมทุกขั้นตอนเคยครองสัดส่วนถึง 70%
ศักยภาพและความท้าทายของข้อมูล
ข้อมูลเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดขององค์กร DMO แต่การค้นหาวิธีเพื่อใช้งานข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องง่าย โดย DMO กว่าครึ่ง (51%) ระบุว่าการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นอุปสรรคสำคัญ และ 45% ประสบปัญหาในการเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาสให้ DMO สามารถสร้างความโดดเด่นด้วยการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างแคมเปญที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นได้ รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า DMO ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลอยู่แล้ว โดย 84% ใช้เป็นข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดดิจิทัล 75% ใช้สำหรับติดตามสถิตินักท่องเที่ยว และ 69% ใช้สำหรับการวิจัยตลาด
การตลาดแบบร่วมมือ: ความร่วมมือที่กำลังได้รับความนิยม
การตลาดแบบร่วมมือ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งรายงานนี้แสดงให้เห็นว่าเกิดการเข้าร่วมเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า จากการเป็นพันธมิตรกับโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว และสายการบิน องค์กร DMO สามารถรวบรวมทรัพยากร ขยายแคมเปญให้เข้าถึงอย่างแพร่หลาย และปรับขนาดการดำเนินงานทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โซเชียลมีเดียยังครองด้านกลยุทธ์การตลาด แต่การใช้วิดีโอก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
โซเชียลมีเดียยังคงเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ โดย 91% ของ DMO ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำการตลาด และ 99% จัดอันดับ Facebook และ Instagram ให้ติดกลุ่มห้าอันดับแรกของช่องทางสำคัญของตน อย่างไรก็ตาม โทรทัศน์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (CTV) และวิดีโอรูปแบบสั้นกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ในฐานะของรูปแบบใหม่ที่ให้ศักยภาพสำคัญเพื่อให้องค์กร DMO สร้างแคมเปญที่สมจริงและเต็มไปด้วยองค์ประกอบทางภาพที่สวยงาม ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างลึกซึ้ง
สามารถดูระเบียบวิธีวิจัยฉบับเต็มโดยดาวน์โหลดรายงาน "State of Destination Marketing 2025" ได้ที่นี่
เกี่ยวกับ Sojern
Sojern เป็นแพลตฟอร์มการตลาดด้านการท่องเที่ยวชั้นนำที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเติบโตและความสามารถทำกำไรให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แพลตฟอร์ม Travel Marketing Platform ของ Sojern เป็นชุดซอฟต์แวร์และบริการที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนักเดินทางที่เหนือกว่า กลุ่มเป้าหมายอัจฉริยะ การเปิดใช้งานและปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญผ่านหลายช่องทาง และประสบการณ์ของลูกค้าที่เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น โดยรวมทั้งหมดนี้ไว้ในที่เดียว ในแต่ละปี นักการตลาดด้านการท่องเที่ยวมากกว่า 10,000 รายวางใจและใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อค้นหา ดึงดูด เปลี่ยนผู้สนใจให้เป็นลูกค้า และสร้างความผูกพันกับนักเดินทาง Sojern ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีทีมงานในภูมิภาคอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เกี่ยวกับ Benchmark Research Partners
Benchmark Research Partners ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อช่วยให้ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดและโอกาสต่าง ๆ ผ่านข้อมูลเทียบวัดกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/249299/Sojern_Logo_V1.jpg?p=medium600
แสดงความคิดเห็น