สิงคโปร์, 8 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ -- เนื่องจากโลกของเรามีอยู่เพียงใบเดียวเท่านั้น บริษัท จีที ไทร์ จึงมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และความพยายามของเราก็เป็นที่ประจักษ์ โดยจีทีที่ประเทศจีนก้าวสู่ตำแหน่งบริษัทชั้นนำ ที่ได้รับ Top 1% ของอุตสาหกรรมยางรถยนต์ ด้วยการคว้ารางวัล Platinum (85 คะแนน) จากการประเมินโดย EcoVadis ประจำปี 2568 และได้รับการจัดอันดับ B-rating ด้านสภาพอากาศและความยั่งยืนจาก Carbon Disclosure Project (CDP) ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานให้โรงงานผลิตทุกแห่งของจีทีปฏิบัติตาม ทั้งนี้จีทีสามารถสร้างชื่อในฐานะกำลังสำคัญด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมในตลาดยางรถยนต์ที่มีการแข่งขันสูง เฉกเช่นเดียวกับผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Michelin และ Bridgestone

เหตุผลของความมุ่งมั่น

"รางวัลนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นสิ่งยืนยันว่า ความพยายามของเรากำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง" Mr.Chris Bloor กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาดของบริษัท จีที ไทร์ กล่าว "อย่างไรก็ตาม เราจะไม่หยุดนิ่งอยู่กับความสำเร็จเพียงแค่นี้ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำเพื่อคนรุ่นต่อไปในอนาคต เราจะยังคงพัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรมยางรถยนต์และการเดินทางทั่วโลกจะมีอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น"

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จีทีได้สร้างชื่อเสียงของบริษัทผ่านการสนับสนุนมอเตอร์สปอร์ตและการร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับอยู่ในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและแนวคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนที่ก้าวหน้าของเรา

การเดินทางสู่ความเป็นเลิศ

การเดินทางสู่ความยั่งยืนของจีที เริ่มต้นขึ้นด้วยการที่เราส่งข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทให้กับองค์กร CDP เป็นครั้งแรกในปี 2566 และด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จีทีจึงได้นำหลักการด้านความยั่งยืนมาใช้ในองค์กรผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมที่ครอบคลุมและโครงสร้างความยั่งยืน ภายใต้การนำของ Dr. Pang Chong Hau ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน โดยจีทีส่งเสริมความโปร่งใสและความรับผิดชอบ พร้อมกระตุ้นให้ทุกฝ่ายดำเนินการเชิงบวกเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและความก้าวหน้าของสังคม

"จีทีใช้แนวทาง 3P (Production, Preparation และ Process) ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและความก้าวหน้าของสังคมอีกด้วย" Dr. Pang กล่าว

"เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีส่วนร่วมกับผู้ถือหุ้นและผู้ถือผลประโยชน์อย่างเต็มที่ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือกับซัพพลายเออร์และลูกค้า โดยยกให้ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการตัดสินใจ เราส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้และการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความหมายอย่างแท้จริง"

ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม: ผู้นำการปฏิบัติตามกฎระเบียบ EUDR

สิ่งหนึ่งที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจีทีที่มีต่อความยั่งยืนก็คือ การที่จีทีเป็นผู้นำในการปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป หรือ European Union Deforestation Regulation (EUDR) ซึ่งเน้นย้ำว่าจีทีให้ความสำคัญกับการจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบ การจัดซื้อด้วยความถูกต้องตามหลักจริยธรรม และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของกลยุทธ์ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง

แม้ว่าจะมีความล่าช้าในการบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR อย่างเป็นทางการ แต่จีทียังคงประสานงานกับบรรดาซัพพลายเออร์ เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุดิบที่จัดหามาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนช่วยแก้ไขความเสียหายในอดีต ทั้งนี้ เนื่องจากจีทีเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ปฏิบัติตาม EUDR จึงมีส่วนในการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมและเสริมสร้างบทบาทของตนในฐานะผู้บุกเบิกการกำกับดูแลที่ยั่งยืน

"ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนหรือเกิดจากความพยายามเพียงลำพัง" François Petiot ผู้อำนวยการ Giti International QA Centre กล่าว

"ปัจจัยสำคัญสามประการที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเรามีดังนี้

1. ผู้จัดการโรงงานของเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการสร้างความยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนจากการฝึกอบรมอย่างมีแบบแผน
2. วัฒนธรรมภายในบริษัทของเรามุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้กลายเป็นความจริง
3. นโยบายที่เข้มแข็งและโครงสร้างการตรวจสอบที่รอบคอบของเรา ทำให้มั่นใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดและมีประสิทธิภาพ"

ก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR อย่างเต็มรูปแบบ จีทีก็ได้จัดหาแหล่งวัถตุดิบเนื้อยางตามระเบียบข้อบังคับของ EUDR 100% อยู่แล้ว โดยวัตถุดิบที่จำเป็นทั้งหมดมาจากซัพพลายเออร์ที่ผ่านมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด